Mom : คุณแม่อาจรู้สึกว่าตัวเองต้องการพลังงานเพิ่มขึ้น และในช่วงนี้คุณแม่จะรู้สึกได้ว่าเต้านมเริ่มเป็นก้อนเล็กๆ สิ่งที่เกิดขึ้นนั่นคือ ต่อมน้ำนม (Mammary Glands) และท่อน้ำนมที่กำลังเติบโตขึ้น เต้านมของคุณแม่อาจเริ่มผลิตน้ำคัดหลั่งสีเหลือง ที่เรียกว่าคอลอสตรัม (Colostrum) ซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย และนี่ก็จะเป็นน้ำนมแรก ที่จะให้เป็นอาหารมื้อแรกเมื่อทารกคลอดออกมาคะ
การเปลี่ยนแปลงของร่างกายคุณแม่
คุณแม่อาจจะรู้สึกว่ามีพลังงานเพิ่มขึ้นมากกว่า 13 สัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะอาการแพ้ท้อง คลื่นไส้ อาเจียน จะเริ่มดีขึ้นและค่อยๆ หายไป ในระยะนี้คุณแม่อาจจะกระปรี้กระเปร่า อยากออกกำลังกายและใช้พลังงานในทางที่เหมาะสม แต่คุณแม่ควรระมัดระวังให้มาก การทำอะไรที่เกินตัวยังเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมค่ะ
Baby : ทารกในครรภ์เริ่มที่จะฝึกจังหวะการหายใจของตัวเองแล้วคะ เริ่มมีคาง หน้าผาก และจมูกที่ชัดเจนขึ้นมาก ทารกสามารถที่จะหันศีรษะช้าๆ ไปมาได้แล้ว หากคุณพ่อคุณแม่เล่นกับลูกในท้องด้วยการลูบสัมผัสบริเวณหน้าท้องคุณแม่ ใช้ไฟฉายเล็กๆ ส่องที่ท้อง หรือเปิดเพลงเบาๆ ให้ฟัง ลูกจะเริ่มตอบสนองต่อสิ่งเร้าเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี
พัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์
สัปดาห์นี้ลูกจะมีความสูงประมาณ 9 ซม. เป็นช่วงที่ลูกจะเริ่มฝึกจังหวะการหายใจ แม้ว่าโดยปกติแล้ว เขาจะได้รับออกซิเจนที่จำเป็นจากรกผ่านทางสายสะดือแล้วก็ตาม และในระยะนี้ หัวใจของเขาจะทำหน้าที่สูบฉีดเลือดปริมาณมากไปทั่วร่างกายทุกวันออกมา คุณแม่อย่าเพิ่งกังวลไป เพราะนั่นเป็นสัญญาณที่ดี น้ำสีเหลืองที่ออกมานั้นจะกลายเป็นน้ำนมแรกที่คุณแม่จะให้เขากินหลังคลอดค่ะ
ตั้งครรภ์ 14 สัปดาห์
ต่อมไทรอยด์พัฒนาถึงขั้นพร้อมผลิตฮอร์โมน ถ้าคุณชอบกินผักกะหล่ำปลี คุณจะได้รับวิตามินซีจากผักชนิดนี้ แต่ในระยะนี้คุณควรจำกัดปริมาณการบริโภคผักกะหล่ำปลีลง และไม่ควรที่จะกินแบบดิบ เพราะกะหล่ำปลีมีสารที่จะไปยับยั้งการทำงานของไทรอยด์
หลังจากที่ทารกได้สนุกกับการลิ้มรสของน้ำคร่ำ มาช่วงสัปดาห์นี้ ก็ยังมีอีกหนึ่งพัฒนาการที่น่าตื่นเต้นนั่นก็คือ ทารกเริ่มฝึกจังหวะการหายใจ เริ่มมีคางหน้าผาก และจมูกชัดเจนขึ้น สามารถหันศีรษะ รับรู้ต่อสิ่งเร้าอย่างเสียง และตอบสนองต่อการสัมผัสได้ (คุณแม่ลองลูบที่ท้องเบาๆ ขณะฟังเพลง หรืออ่านหนังสือให้ลูกฟัง ก็เป็นการกระตุ้นพัฒนาการของลูกที่ดี ได้อีกวิธีหนึ่ง) แขน ขาเห็นเป็นรูปร่างชัดเจน
เซ็กส์ระหว่างตั้งครรภ์
ฮอร์โมนที่สูงขึ้นอาจทำให้หญิงตั้งครรภ์มีอารมณ์ทางเพศที่สูงกว่าปกติ แต่เพราะความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของลูกน้อย อาจทำให้คุณรู้สึกขัดแย้ง และสับสนภายใน อย่าให้ความรู้สึกนี้มาเป็นตัวทำลายสุขภาพจิตที่ดีของคุณไป ความสุขของคุณขณะที่ได้รับการปรนนิบัติจากคนรัก จะทำให้ลูกของคุณสัมผัสได้ถึงความรู้สึกนี้ และรู้สึกอบอุ่นไปกับคุณด้วย โดยมีข้อแม้ว่าการแสดงบทรักของคุณสองคนจะต้องอยู่ในท่าที่ปลอดภัย ที่สำคัญ คุณควรงด หากการตั้งครรภ์ของคุณมีอาการเสี่ยงร่วมด้วย
แหล่งที่มา นิตยสาร : Pregnancy Advisor & Diary