Mom : เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดและเหมาะสมที่สุดในการออกไปเที่ยวพักผ่อน เนื่องจากคุณแม่เริ่มดีขึ้นจากอาการแพ้ท้อง และเมื่อพ้นระยะนี้ไป ก็จะมีอาการเหนื่อยล้า และเคลื่อนไหวร่างกายลำบากขึ้น
การเปลี่ยนแปลงของร่างกายคุณแม่
คุณแม่อาจมีน้ำลายมากขึ้น หรือคัดจมูกได้ง่ายขึ้นเช่นกัน เนื่องจากระยะนี้ คุณแม่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน และระบบภูมิต้านทานต้องดูแลทั้งคุณแม่และคุณลูก ดังนั้นอาจทำให้คุณแม่ไม่สบายได้ง่าย ควรระวังในเรื่องของการทานยาเพราะอาจไม่ปลอดภัยต่อลูกน้อยในครรภ์ได้ ปรึกษาคุณหมอก่อนทานยาก็จะดีที่สุดค่ะ
Baby : ทารกมีผิวหนังบางใสจนสามารถมองเห็นเส้นเลือด ส่วนบริเวณคิ้วและศีรษะเริ่มมีขนอ่อนๆ ขึ้นมา ทารกเคลื่อนไหวมากขึ้น ข้อแขนและข้อมือเริ่มงอได้ ตลอดจนสามารถกำมือ แบมือได้ด้วย
พัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์
สัปดาห์นี้ลูกจะมีความสูงประมาณ 12 ซม. ร่างกายของลูกจะมีปุ่มรับรส มีคิ้วที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว และเริ่มแสดงสีหน้าต่างๆ เนื่องจากกล้ามเนื้อใบหน้าเจริญเติบโตขึ้น ส่วนขาจะยาวกว่าแขน และลูกสามารถเคลื่อนไหวข้อต่อได้ทั้งหมดเพื่อให้สามารถขยับตัวในครรภ์ได้ รวมทั้งกระดูกของลูกจะเริ่มแข็งขึ้นและมีขนอ่อนที่เรียกว่า ลานูโก (lanugo) ปรากฏบนผิวหนังซึ่งยังบางและใสมาก
ตั้งครรภ์ 15 สัปดาห์
ผิวหนังเริ่มพัฒนา ถ้าหากคุณสามารภมองทะลุเข้าไปในท้องได้ คุณจะเห็นว่าทารกในครรภ์มีผิวหนังที่บาง และโปร่งใสจนคุณสามารถมองเห็นเส้นเลือดของทารกได้ คุณสามารถช่วยทารกพัฒนาผิวหนังให้หนาขึ้นได้ ด้วยการรับประทานอาหารที่มีวิตามินเอ ตับก็มีวิตามินเอที่อยู่ในรูปของ เรตินอล ซึ่งจะให้ผลเสียมากกว่าผลดี ส่วนวิตามินเอ ที่มีประโยชน์ต่อการควบคุมกระบวนการผลิตเซลล์ผิวหนังจะอยู่ในรูปของ แคโรทีน ซึ่งจะมีอยู่ในแครอท ผักใบเขียว และผักที่มีสีเหลือง ฟักทอง
สัปดาห์นี้ทารกน้อยในครรภ์ของคุณแม่เจริญเติบโตขึ้นอย่างมาก ร่างกายจะมีความสูงประมาณ 12 เซนติเมตร กระดูกจะเริ่มแข็งขึ้น และมีขนอ่อนที่เรียกว่าลานูโก (Lanugo) ปรากฏบนผิวหนัง ทารกจะยังมีผิวหนังที่บาง โปร่งใสสามารถมองเห็นเส้นเลือด ยีนส์ที่กำหนดสีผมจะเริ่มทำงาน ทารกเคลื่อนไหวมากขึ้น อวัยวะมีความยืดหยุ่น ข้อแขน ข้อมือเริ่มงอได้แล้ว
เข้าสู่ระยะตั้งครรภ์ที่สอง
คุณจะดูเหมือนคนท้อง ในช่วงอายุครรภ์ประมาณปลายเดือนที่สามเข้าเดือนที่สี่ เมื่อท้องใหญ่ขึ้น คุณควรหาชุดคลุมท้องมาใส่ได้แล้ว ชุดที่โปร่งสบายเหมาะกับสรีระของคนท้องจะทำให้คุณรู้สึกอึดอัดน้อยลง สิ่งที่ควรระวังสำหรับคุณแม่ที่ต้องทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่ตลอดวัน อาจเป็นอันตรายต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ได้ คุณควรปรึกษาแพทย์ที่ฝากครรภ์เพื่อการตรวจอัลตราซาวนด์ และควรพักสายตาทุกๆ ครึ่งชั่วโมงจะช่วยบรรเทาความตึงเครียดให้กับคุณได้ด้วย
แหล่งที่มา นิตยสาร : Pregnancy Advisor & Diary